การแจ้งสถานภาพและการแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูล
หน้าที่ของผู้กู้ยืมเงิน มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
1. ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมตรงกับความเป็นจริง
2. ต้องดำเนินการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินผ่านระบบ e-Studentloan ด้วยตนเอง และต้องเก็บรักษารหัสผ่านที่ได้รับจากกองทุนไว้เป็นความลับ หากผู้กู้ยืมเงินยินยอมให้บุคคลอื่นดำเนินการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินผ่านระบบ e-Studentloan แทนให้ถือว่าผู้กู้ยืมเงินเป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเอง
3. ต้องแจ้งการเปลี่ยนชื่อ ย้ายที่อยู่ หรือย้ายสถานศึกษา และจบการศึกษาหรือพ้นสภาพการเป็นนักเรียน/นักศึกษาภายใน 15 วันนับแต่วันเปลี่ยนชื่อ ย้ายที่อยู่ ย้ายสถานศึกษา จบการศึกษาหรือพ้นสภาพการเป็นนักเรียน/นักศึกษาต่อผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม(บมจ.ธนาคารกรุงไทย/ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย)
4. ต้องแสดงตนต่ออาจารย์ที่ปรึกษาอย่างน้อยภาคละหนึ่งครั้ง
5. ต้องแจ้งสถานภาพการเป็นนักเรียน/นักศึกษาไปที่ผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม(บมจ.ธนาคารกรุงไทย/ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) หากยังมีสถานภาพเป็นนักเรียน/นักศึกษาอยู่แต่ไม่ได้กู้ยืมเงินกองทุน
6. ต้องแจ้งที่อยู่และสถานที่ทำงาน พร้อมจำนวนเงินเดือนหรือค่าจ้างที่ได้รับให้ผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม(บมจ.ธนาคารกรุงไทย/ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) ทราบภายใน 30 วันนับแต่วันเริ่มทำงาน
ในกรณีที่ผู้กู้ยืมเงินย้ายที่อยู่ หรือเปลี่ยนงาน หรือสถานที่ทำงาน หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเงินเดือนหรือค่าจ้าง ผู้กู้ยืมต้องแจ้งให้ผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืมทราบภายใน 30 วัน
หน้าที่ของสถานศึกษา
1. สถานศึกษามีหน้าที่รายงานผลการศึกษาของผู้กู้ยืมเงินที่กำลังศึกษาอยู่ให้ผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม(บมจ.ธนาคารกรุงไทย/ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย)ทราบ ทุกสิ้นปีการศึกษา (มาตรา 51)
2. ในกรณีที่ผู้กู้ยืมเงินพ้นสภาพการเป็นนักเรียน/นักศึกษาไปแล้วไม่ว่าด้วยเหตุใด สถานศึกษาต้องแจ้งให้ผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม(บมจ.ธนาคารกรุงไทย/ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) ทราบ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่พ้นสภาพ (มาตรา 51)
หน้าที่ของผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม (บมจ.ธนาคารกรุงไทย/ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย)
กรณีผู้กู้ยืมเงินถึงแก่ความตาย ให้ผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม(บมจ.ธนาคารกรุงไทย/ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) ระงับการโอนเงิน และส่งรายงานพร้อมหลักฐานการถึงแก่ความตายให้กองทุนทราบ