กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมบังคับคดี ด้านการให้บริการตั้งเรื่องบังคับคดีโดยช่องทางด่วน (Fast Track) และความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลล้มละลาย โดยนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เมื่อวันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ห้องประชุมคชสาร 2 กรมบังคับคดี นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนฯ ได้เปิดเผยว่า “เมื่อปี 2558 กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาและกรมบังคับคดีได้เคยลงนามบันทึกความร่วมมือกันในกระบวนการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีมาแล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกรมบังคับคดี และในครั้งนี้เป็นการลงนามความร่วมมือด้านการให้บริการตั้งเรื่องบังคับคดีโดยช่องทางด่วน (Fast Track) และความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลล้มละลาย โดยกรมบังคับคดีจะอำนวยความสะดวกกับ กยศ. ในการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อดำเนินการ ตั้งเรื่องบังคับคดี หรือการยึดทรัพย์สิน หรือการอายัดทรัพย์สิน รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับบุคคลล้มละลายผ่านทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่กรมบังคับคดีได้จัดเตรียมไว้ โดยกยศ. จะใช้ข้อมูลที่ได้จากการเชื่อมโยงข้างต้นเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาความสามารถในการทำนิติกรรมของผู้ขอกู้ยืมเงิน และผู้ค้ำประกันตลอดจนเพื่อประโยชน์ในการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ทั้งนี้ กรมบังคับคดี และ กยศ. ตกลงจะจัดให้มีการประชุมประเมินผลการดำเนินการร่วมกันเป็นระยะ เพื่อร่วมกันปรับปรุงแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ปัจจุบัน กองทุนมีผู้กู้ยืมที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว 1,200,000 ราย โดยขณะนี้มีผู้กู้ยืมที่ผิดนัดและไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา และเข้าสู่กระบวนการบังคับคดีแล้วจำนวนประมาณ 200,000 ราย และยังมีผู้กู้ยืมที่จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีประมาณ 1,000,000 ราย เพื่อเป็นการป้องกันการถูกบังคับคดี จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้กู้ที่ศาลพิพากษาแล้วไปชำระหนี้หรือขอเจรจาไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี โดยผู้กู้ยืมสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองทุน กยศ. โทร 0 2016 4888 หรือสำนักงานบังคับคดีในแต่ละจังหวัด สุดท้ายนี้ กองทุนขอฝากถึงผู้กู้ยืมทุกคนว่าเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเปรียบเสมือนการให้ทุนแก่เยาวชน เพื่อไปสร้างอนาคตของตนเองและสร้างทุนมนุษย์ให้กับตัวผู้กู้ยืมเอง เมื่อถึงกำหนดชำระหนี้ก็ขอให้ชำระตามกำหนดเวลา เพื่อส่งมอบโอกาสคืนทุนการศึกษาให้กับคนรุ่นใหม่ต่อไป”
