Secondary

Languages

กยศ. มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีอัตราชำระหนี้ดีที่สุด 25 อันดับแรกของประเทศ

 กยศ. มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีอัตราชำระหนี้ดีที่สุด 25 อันดับแรกของประเทศ

8 ธันวาคม 2565

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีอัตราชำระหนี้ดีที่สุด 25 อันดับแรกของประเทศ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ และสร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินงานกองทุนของสถานศึกษา โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นองค์ปาฐกแสดงปาฐกถาพิเศษผ่านระบบออนไลน์ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กล่าวแสดงความยินดีและมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กล่าวรายงานความเป็นมา เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 ชั้น 4 กระทรวงการคลัง  

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า “จากการที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้เปิดเผยรายชื่อสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีอัตราชำระหนี้ดีที่สุด 25 อันดับแรกของประเทศ จากสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาของรัฐและเอกชนทั่วประเทศ จำนวน 313 แห่ง ในโอกาสนี้ กองทุนจึงได้จัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่สถานศึกษา 25 แห่งดังกล่าว เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่สถานศึกษาที่มีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมของผู้กู้ยืม บ่มเพาะผู้กู้ยืมให้มีวินัยทางการเงิน ตลอดจนมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบในการชำระหนี้กองทุน ส่งผลให้กองทุนได้รับชำระเงินคืนกลับมาหมุนเวียนเพียงพอในการส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษาต่อไป โดยจัดอันดับรายชื่อสถานศึกษาที่มีอัตราชำระหนี้ดีที่สุด 25 อันดับแรก ดังนี้

ปัจจุบัน กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้ให้โอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาไปแล้วจำนวนกว่า 6.4 ล้านราย เป็นเงินให้กู้ยืมกว่า 7 แสนล้านบาท ซึ่งในแต่ละปีการศึกษา มีจำนวนนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมเงินกว่า 600,000 คน มีสถานศึกษาที่เข้าร่วมดำเนินงานกับกองทุนทั่วประเทศกว่า 4,000 แห่ง ซึ่งสถานศึกษาทุกแห่งล้วนเป็นกำลังสำคัญในการสร้างคนให้มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้งยังช่วยปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่นักศึกษา ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศให้เติบโตขึ้นเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศชาติในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมต่อไป” ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในที่สุด

วันที่: 
8 ธันวาคม 2565