1 กรณีหากผู้กู้ยืมประสงค์ให้ถอนฟ้อง
ผู้กู้ยืมต้องชำระหนี้ปิดบัญชี พร้อมจ่ายค่าทนาย และส่งหลักฐานการชำระหนี้ปิดบัญชีให้กองทุนพิจารณาถอนฟ้อง
1.1 ชำระหนี้ปิดบัญชี ให้ยอดหนี้กู้ยืมเป็นศูนย์ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยยื่นบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้กู้ยืมแจ้งเจ้าหน้าที่ขอชำระหนี้ กยศ.
1.2. ผู้กู้ยืมต้องชำระค่าทนายความจำนวน 5,500 บาท เข้าบัญชีจ่ายบริหารกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา รหัส company code 9067 สำหรับกองทุน กยศ. และ รหัส company code 92707 สำหรับกองทุน กรอ.
ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าฤชาธรรมเนียมศาลและค่าทนายความแทนโจทย์ตามที่ศาลสั่ง โดยการชำระหนี้ค่าฤชาธรรมเนียมศาลและ ค่าทนายความ ผู้กู้ยืมต้องชำระค่าทนายความเข้าบัญชีจ่ายบริหารกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา รหัส company code 9067 สำหรับกองทุน กยศ. และ รหัส company code 92707 สำหรับกองทุน กรอ.
แบบฟอร์ม ใบรับชำระค่าทนายความ กยศ. ... คลิก
แบบฟอร์ม ใบรับชำระค่าทนายความ กรอ. ... คลิก
2 กรณีผู้กู้ยืมที่ไม่สามารถชำระหนี้เพื่อถอนฟ้องได้
2.1. กรณีที่ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันไปศาลตาม วัน เวลา ที่ศาลนัด เพื่อไกล่เกลี่ยและทำสัญญาประนีประนอมยอมความผ่อนชำระเป็นรายเดือน หากผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความ กองทุนจะลดเบี้ยปรับให้ร้อยละ 75 โดยมีเงื่อนไขว่าผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันต้องไม่ผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ และเว้นแต่มีเหตุอื่นที่ไม่สามารถฟ้องได้ภายในวันที่ 5 ก.ค. ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ตามอัตราและภายในระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยยินยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ของต้นเงินที่ค้างชำระ และหากผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งต้องเสียเบี้ยปรับ ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินงวดที่ผิดนัดในแต่ละงวด
กรณีที่ผู้กู้หรือผู้ค้ำประกันที่มีรายชื่อระบุในหมายศาลคนใดคนหนึ่งไม่สามารถไปตามวันและเวลาที่ศาลนัดให้ทำ เป็นหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือมอบอำนาจให้บุคคลที่บรรลุนิติภาวะไปดำเนินการแทน พร้อมสำเนาบัตรบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับ มอบอำนาจ เอกสารทุกฉบับต้องรับรองสำเนาโดยเจ้าของเอกสาร
2.2 กรณีที่ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันไม่ได้ไปศาลตามวัน เวลา ที่ศาลนัด ศาลจะมีคำพิพากษาฝ่ายเดียวให้ชำระหนี้เต็มจำนวน โดยศาลจะกำหนดให้ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลแทนกองทุนฯ ภายหลังจากศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ ศาลจะออกคำบังคับ ให้ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา หากผู้กู้ยืมไม่ชำระจะต้องเสียเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 7.5 ของเงินต้นคงเหลือทั้งหมด และกองทุนอาจบังคับคดี โดยการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน
การชำระหนี้ข้างต้นต้องชำระก่อนวันศาลนัด 2 อาทิตย์และ Fax หลักฐานการชำระหนี้ปิดบัญชี หลักฐานการชำระค่าทนายความ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน รับรองสำเนาถูกต้องเอกสารทุกฉบับ พร้อมระบุ ชื่อ-นามสกุลผู้กู้ หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อกลับได้ วันที่ศาลนัด พร้อมทั้งหมายนัดของศาล (ถ้ามี) ทั้งนี้ให้ผู้กู้ยืมติดต่อโดยตรงถึงสำนักงานกฎหมายที่รับผิดชอบคดีของผู้กู้ยืม หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม บริษัทกรุงไทยกฎหมายจำกัด 02-263-3739